สำหรับผู้ที่ชอบไก่ชนป่าก๋อยหลายๆ คนที่กำลังเริ่มชอบหรือเริ่มศึกษา ท่านจะเห็นว่าไก่ชนนั้นมีหลายชนิดหลายพันธุ์เป็นอย่างมากแต่ละสายพันธุ์ย่อมมีจุดเด่นและวิธีดูหรือวิธีเลี้ยงที่แตกต่างกัน
“ไก่ชนป่าก๋อย” คือไก่พื้นเมือง
ไก่ชนป่าก๋อย หรือไก่เหล่าป่าก๋อย เป็นไก่ชนพื้นเมืองของหมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย ตำบลน้ำดิบ อำเภอเมือง ป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นไก่ชนสายพันธุ์ที่มีเชิงเก่งทั้งการกัดจิกไม่เลือกที่ เป็นไก่ที่มีกำลังมากเหลือ ทรหด อดทน มีกำลังในการต่อสู้เยอะและเป็นไก่พันธุ์นิยม
ความเป็นมาไก่ชนป่าก๋อย
สำหรับความเป็นมาของไก่ชนป่าก๋อยที่มีเรื่องเล่ากันมาว่า…ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วพ่อหลวงสุพจน์วิจิตรได้ถูกเกณฑ์ทหารเข้ามาประจำการในเขตภาคตะวันออก และหลังจากการปลดประจำการแล้วก็ได้นำไก่ชนเมืองจันทร์กลับมาด้วย ซึ่งไก่ชนตัวนั้นเป็นตัวผู้มีสีเหลืองเลา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ “ไก่เชิงตราด” เมื่อนำไก่กลับมาก็ได้ผสมพันธุ์กับไก่พื้นเมืองที่มีลักษณะเด่นคือ ไก่พื้นเมืองตัวนั้น ‘เดินหน้าจิกตีไปทั่วโดยไม่ต้องใช้เชิงก่อน’ เป็นไก่ที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 1.8-2 กิโลกรัม
การเริ่มผสมพันธุ์ในช่วงแรก
ในช่วงแรกหลังจากผสมพันธุ์เสร็จเรียบร้อยผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจแต่พอคอกต่อมาดันไม่ได้ผล ซึ่งการผสมหลายคอกในสายเลือดเดียวกันก็จะทำให้เกิดเลือดชิด จึงทำให้ต้องรีบแก้ปัญหานี้
พ่อหลวงจึงเดินทางไปยังเมืองจันทร์อีกครั้ง ครั้งนี้ได้กลับไปหาพ่อพันธุ์เหลืองเลาตัวเก่ง และครั้งนี้ก็ได้นำกลับมาหลายตัวและได้ทำการผสมพันธุ์อยู่หลายปี การผสมครั้งนี้ถือว่าได้ผลงานที่พอใจเพราะได้โครงสร้างที่เกิดขึ้นตามพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตรงทุกอย่าง ที่มีเชิงกัดจิกตีเก่ง จึงเป็นไก่ที่ได้รับความสนใจ จากนั้นก็มีนักเล่นไก่ในหมู่บ้านหรือต่างถิ่นได้นำสายพันธุ์นี้ไปเลี้ยงและพัฒนากันสืบต่อมา
สำหรับหมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย เป็นหมู่บ้านที่ได้รับสายพันธุ์ไก่ก๋อยจากพ่อหลวงสุพจน์โดยตรง และนำมาสร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไก่เหล่าป่าก๋อย” และยังมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น นายยืน บ้านท่าไม้ ,นายเสริฐ , ครูนิ่ม , ครูเลิศบ้านเหล่าป่าก๋อย รวมทั้งครูนิรันดร์แห่งวังสวนกล้วย ที่มีส่วนในการพัฒนาสายพันธุ์
การพัฒนาสายพันธุ์ไก่ชนป่าก๋อย
สำหรับสายพันธุ์ไก่ชนป่าก๋อยได้มีการเลี้ยงและการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงการสืบทอดขึ้นมาหลายคนเช่น คุณบุญเลิศ อินบุรี (อาจารย์เลิศ) ที่ได้ไก่ที่เป็นต้นกำเนิดจากหลวงสุพจน์ที่นำมาเลี้ยงและสามารถนำไปชนที่เชียงใหม่ชนะเลิศมาได้จากนั้นไม่นานคุณเสริฐได้ขอแบ่งซื้อมาเลี้ยงแต่เมื่อทำการเพาะพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนได้ลูกหลานสองสีคือ
- สีเหลือง
- สีเขียว ปากสีขาว
ทั้ง 2 ตัวนั้นมีผิวหนังไม่ค่อยเป็นสีแดง ส่วนหางจะมีสีดอก เกร็ดเป็นสองแถวเสียเป็นส่วนใหญ่ การคัดเลือกพ่อพันธุ์ไก่ของอาจารย์เลิศจะต้องมาจากไก่ที่ชนะเท่านั้น
ไก่ชนป่าก๋อยที่ชนะมีลักษณะอย่างไร
ไก่ป่าก๋อยที่ชนะบ่อยครั้งจะมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
- คางเคราสีเหลือง
- หางดก
ส่วนการเลือกแม่พันธุ์จะเป็นแม่พันธุ์ตามเดิม สำหรับแม่สีนี้เป็นลูกเก่งค่อนข้างมาก และเป็นแม่เหล่านี้ที่เป็นเชิงกาบ หัวดอก ตกกระตามตัว ไก่ในซุ้มที่มีสีเขียวเลามักจะเป็นไก่ที่มีความเก่งและผ่านการออกสนามหรือผ่านการชนมาแล้ว 2 ปี ปีละ 3-4 ไฟท์
ลักษณะประจำพันธุ์ไก่ชนป่าก๋อย
ไก่ชนสายพันธุ์ไก่ก๋อย ที่มีลักษณะโดดเด่นพิเศษมีเอกลักษณ์คือการตีตัว คาบบ่า การวิ่งเข้าชนเร็ว การตีเร็ว ตีแรง และการถอนขนคู่ต่อสู้ ส่วนลักษณะของเพศผู้และเพศเมียจะมีดังนี้
ไก่ชนป่าก๋อยเพศเมีย :
เพศเมีย ขนลำตัวและหางจะมีสีดำและสีด่าง หงอนหิน ขนาดเล็ก มีตาขาวอมเหลือง
ไก่ชนป่าก๋อยเพศผู้ :
เพศผู้ โคนปากใหญ่ ปลายปากงุ้มคล้ายกับนกแก้ว ปากบนมีร่องน้ำชัดเจน ปากบนปิดปากล่างสนิท นัยตากลมเล็กใบหน้าแหลมเกลี้ยงเกลา ที่มีลักษณะกลมกลึงคล้ายกับนกยูง สีแดงจัด รูจมูกจะเห็นได้เด่นชัดมีความกว้าง
หงอน : มีลักษณะกว้างเป็นแบบหงอนหิน หน้าหงอนกว้าง ตรงกลางจะบางสูงเป็นสีแดงสด รูหูกลมมีขนปิดสนิท ตุ้มหู เล็กไม่หย่อนยาน เหนียงรัดคางมีลักษณะสร้อยประบ่า ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียวเลา เหลือเลา ประดู่เลา สีด่าง ลำตัวกลมยาว จับได้ 2 ท่อน สนับปีกใหญ่มีกล้ามเนื้อมาก หลังกว้างเป็นแผ่น ไม่ค่อม และสร้อยปีหลังเต็ม เชื่อต่อกับสร้อยคอต่อยาว
หาง : มีลักษณะที่เป็นแบบระเบียบจากช่วงล่างขึ้นบนปลายหางมน 7 เส้น ก้านหางแข็งแรงยาวพุ่งตรงเป็นฟ่อน ปลายโค้งลงเล็กน้อย
โดยเพศผู้โตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 2.2-2.8 กก. เมื่อเริ่มโตเต็มตัว จะเริ่มต้นในการผสมพันธุ์ได้ช่วงที่มีอายุ 7 เดือน ส่วนเพศเมียโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 1.8-2.5 กก. ในแต่ละปีจะมีการตกไข่ที่ 8-12 ฟอง โดยตกไข่ปีละ 4 ชุด
จุดเด่นและจุดอ่อนของไก่ชนป่าก๋อย
สำหรับจุดเด่นของไก่ชนป่าก๋อย
ไก่ป่าก๋อยเป็นไก่ที่มีจุดเด่นเชิงจัด ลีลาแพรวพราวลื่นไหลไม่สะดุด มีความรวดเร็วคล่องแคล่ว เป็นไก่ที่ไม่เกรงกลัวและชอบตีแบบประชดตัวคู่ต่อสู้ จิกกัดตีไม่เลือก เป็นไก่ที่มีการตีในรูปแบบแผลสามเหลี่ยมเป็นไก่สายพันธุ์ที่พร้อมเข้าชนตลอด
ส่วนจุดอ่อนของไก่ชนป่าก๋อย
เป็นไก่เชิงล่างชนหัวต่ำถ้าเดินไม่เร็วอาจะตกเป็นรองคู่ต่อสู้ได้ในบางครั้ง เนื่องจากเป็นไก่เชิงจัดจึงต้องใช้แรงมากในการต่อสู้ทำให้ง่ายต่อการสูญแรงจะไม่สามารถบดบี้ตีคู่ต่อสู้ได้ เป็นไก่ที่ตีไม่เลือกและจะสามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้ช้ากว่าไก่ชนิดอื่นที่เน้นตีที่เดียว จึงทำให้ยากต่อการต่อสู้ที่จะเอาชนะได้