นครราชสีมา ซุ้มเลี้ยงไก่ชน มั่นใจ ไก่ชนไทย ขึ้นแท่นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลกได้ ยันไม่ใช่การทรมานสัตว์ เป็นวิถีชีวิตของไทย ไก่ชนต้องสู้เก่งราคาทะยานขึ้นหลักล้านได้ หนุนรัฐผลักดันเต็มที่
วันที่ 2 มี.ค. 2566 จากกรณีที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ลงนามเมื่อ 24 ก.พ. ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่องซักซ้อมแนวทางการอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันประเภทให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งขันได้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
วันที่ 27 ก.พ.2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้ออกมาเสนอแนวความคิดที่จะผลักดันกีฬาแข่งสัตว์ต่างๆ อาทิ วัวชน ไก่ชน ปลากัด และม้าแข่ง ให้กลายเป็นซอฟต์เพาเวอร์ (Soft Power) เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของไทย ให้เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งกลายเป็นกระแสสังคมและสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากนั้น
นายวรชิต แพงไพรี เจ้าของซุ้มไก่ชน “มะพร้าวทองฟาร์ม” ซึ่งเป็นซุ้มไก่ชนชื่อดังเมืองโคราช ตั้งอยู่ ชุมชนวัดศาลาลอย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า กีฬาไก่ชนถือว่าเป็นวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ แต่ต้องถูกจำกัดไม่ให้เติบโตมาก เพียงเพราะถูกตราหน้าว่าเป็นการพนัน ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาสายพันธุ์ไก่ชนไทยเป็นอย่างมาก
เมื่อ นายสมศักดิ์ ออกมาผลักดันกีฬาไก่ชน รวมทั้งกีฬาแข่งขันสัตว์อื่นๆ ให้กลายเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น จะทำให้คนในวงการไก่ชนดีใจเป็นอย่างมาก เพราะไก่ชนสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน เช่น ชาวนาก็สามารถนำข้าวมาขายให้คนเลี้ยงไก่ชนได้ คนสานสุ่มก็ขายสุ่มได้ ชาวบ้านก็สามารถจับเงินแสนเงินล้านได้ จากการขายไก่ชนเก่งๆ เป็นต้น
การจะมีไก่เก่ง ก็ต้องมีสนามชนไก่ ให้ซุ้มไก่นำไก่ไปโชว์ฝีมือด้วย เหมือนนักมวย ต้องมีเวทีต่อยถึงจะดัง ไก่ชนก็เหมือนกัน ต้องมีสนามไว้ชน เพราะถ้าไม่มีสนามไว้โชว์ความเก่ง ไก่ก็จะไม่มีราคาเลย จะเป็นแค่ไก่เนื้อธรรมดาๆ ที่นำไปชั่งขายกิโลกรัมละไม่กี่สิบบาทเท่านั้นแต่ถ้ามีสนามให้ไก่ชนได้โชว์ความเก่ง ซึ่งความเก่งจะเป็นตัวชี้วัดมูลค่าของไก่ชน บางตัวอาจมีราคาหลักพัน แต่บางตัวอาจมีราคาถึงหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้านบาท ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ดังนั้นรัฐบาล ควรที่จะส่งเสริมให้มีสนามชนไก่ที่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ไม่ต้องรองบประมาณจากรัฐบาล ขอให้ผลักดันอย่างถูกวิธีก็พอ ส่วนคนเลี้ยงไก่ชนมีอยู่พร้อมแล้วทั่วประเทศ ถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างจริงจัง ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็วแน่นอน รัฐบาลสามารถนำรายได้ส่วนนี้ ไปเข้าระบบเพื่อจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้อย่างมหาศาล
นอกจากจะทำให้คนในแวดวงไก่ชนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้แล้ว เมื่อมีคนเดินทางมาเที่ยวชมไก่ชนมากๆ ทั้งจากทัวร์ต่างประเทศ และคนไทยด้วยกันเอง ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก
เรื่องการซื้อขายไก่ชน การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ของไก่ชน การพัฒนาสายพันธุ์ การเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ซื้อของที่ระลึกนำติดตัวกลับบ้านได้ ซึ่งถือว่า ไก่ชนเป็นซอฟต์เพาเวอร์ระดับโลกได้เป็นอย่างดี
ส่วนใครที่บอกว่าการชนไก่ เป็นการทรมานสัตว์นั้น จริงๆ แล้วมันเป็นการต่อสู้ของเขาต่างหาก เพราะเอกลักษณ์ของไก่ชน คือการต่อสู้กัน ถ้าไม่ต่อสู้กัน ก็จะเหมือนไก่เนื้อทั่วไป ไม่มีราคาถึงหลักล้านบาทแน่นอน
ขอให้เข้าใจในส่วนนี้ด้วย ซึ่งคนเลี้ยงไก่ชนไม่ได้โหดร้าย เขาต้องดูแลไก่ชนที่เขารัก หวงแหนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก บางคนถึงกับนอนอยู่กับไก่ชนที่เขารักเลยก็มี ดังนั้นเขาจะอยากเอาไก่ของเขาไปทรมานหรือ ไก่ชนเขาต่อสู้ก็ต้องมีได้รับบาดเจ็บเป็นธรรมดา แต่คนเลี้ยงไก่ ก็มีวิธีรักษาของเขาอยู่ เพราะมันคือวิถีชีวิตของคนเลี้ยงไก่ชน