สำหรับกติกาการชนไก่เป็นอีกสิ่งที่มีการพัมนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสังคมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ในสมัยโบราณการชนไก่ไม่ได้มีกติกาอะไรมากมาย เพียงแค่นำไก่ 2 ตัวมาชนกัน ไม่มีการกำหนดยกหรือพักให้น้ำใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวไหนวิ่งหนีก็ถือว่าเป้นฝ่ายแพ้ไป แต่เมื่อการชนไก่ได้รับความนิยมขึ้นมา กฎกติกาต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ มีการกำหนดยกโดยใช้กะลามะพร้าวเจาะรูวางลองในภาชนะใส่น้ำ เช่น อ่าง กะละมังหรือถัง เมื่อกะลามะพร้าวจมลงเรียกว่า “หมดอัน” ก็มีการพักยกให้น้ำได้ และใช้กะลาใบเดิมวางลอยในน้ำอีกครั้ง เมื่อจมก็ถือว่าหมดเวลาพัก นำไก่เข้าชนกันใหม่ ทั้งนี้จะชนกันกี่อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย
สำหรับการชนไก่ยุคใหม่ มีการกำหนดเวลาการชนที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้ให้ชนกันยกหรืออันละ 20 นาที พัก 20 นาที จำนวน 12 ยก หรือแล้วแต่ทั้ง 2 ฝ่าย จะตกลงกัน แต่ปัจจุบันเพิ่มระยะเวลาการชนเป็น 22-23 นาที พัก 22-23 นาที โดยชนกันแค่ 6-8 ยกขึ้นอยู่กับเจ้าของจะตกลงกัน ซึ่งกติกาต่าง ๆ มีรายละเอียดแตกต่างกันไปแต่ละสนาม แต่โดยส่วนมากแล้วมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
สนามชนไก่ส่วนใหญ่แล้วเปิดชนช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งก็สบันสับเปลี่ยนกันไป โดยสนามหนึ่งเปิดชนได้เพียงเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น และจะหยุดในวันที่ตรงกับวันพระและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งกติกาทั่ว ๆ ไปสำหรับการชนไก่มีดังนี้ เริ่มจากการเปรียบไก่โดยการจับตัว ประเมินน้ำหนัก เทียบความสูง อายุ และข้อได้เปรียบเสียบเปรียบต่าง ๆ โดยเจ้าของไก่เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะชนกับตัวไหน เดิมพันจำนวนเท่าไหร่ หากได้คู่แล้วก็ทำสัญลักษณ์เอาไว้ที่เดือย เพื่อป้องกันการเปลี่ยนตัว
เมื่อไก่ได้คู่แล้วต้องวางเงินมัดจำทั้ง 2 ข้าง ส่วนมากกำหนดให้วางข้างละ 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้อาจเป็นการติดมัดจำไว้ก่อนแล้วมาชนกันวันหลัง หรืออาจจะเปรียบแล้วชนกันวันนั้นเลยก็ได้ ก่อนชนสามารถเพิ่มเดิมพันได้แต่ต้องเพิ่มในเวลาที่ทางสนามกำหนด เมื่อไก่ได้คู่วางเงินเดมพันแล้วทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใดไม่นำไก่เข้าชนต้องเสียค่ามัดจำ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่หากทั้งสองฝ่ายพร้อมใจไม่ยอมเข้าชนทางสนามปรับทั้งคู่ ในการชนทุกครั้งมีการหักเปอร์เซ็นต์หรือที่เรียกว่าค่าน้ำด้วย ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดิมพัน ขึ้นอยู่แต่ละสนามโดยผู้ชนะจะต้องเป็นผู้จ่ายแต่หากไม่มีการแพ้ชนะก็ถูกหักค่าน้ำทั้งคู่ ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
เมื่อถึงวันชน มีการเรียกดูตัวอีกครั้ง คู่ชนที่เดิมพันมากที่สุดจะให้ชนก่อน ก็เริ่มให้น้ำเพื่อเตรียมตัวเข้าชน การพันเดือย พันนิ้วเล็บใช้พลาสเตอร์พันในสนามเท่านั้น เมื่อนำไก่เข้าสนามชนทั้งสองฝ่ายตรวจเช็คเดือยซึ่งกันและกัน และเตรียมตัวไก่ให้เรียบร้อย กรรมการจะนำน้ำกลางล้างขาและเดือยไก่พร้อมทั้งเช็ดตัวและนำไก่ส่งคืน โดยมือน้ำห้ามแตะต้องหรือจับถูกเดือยไก่ก่อนปล่อยไก่เข้าชนอย่างเด็ดขาด
ยกแรก เมื่อปล่อยหางไปแล้ว 4 นาทีหรือเรียกว่าอันซ้อม ถือว่ามีการได้เสียเกิดขึ้นแล้ว (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกันด้วย) แต่หากตัวหนึ่งตัวใดหนีหรือคิดก่อนอันซ้อมถือว่าให้ยกเลิกกันไปไม่มีการแพ้ชนะเว้นเสียแต่ถูกตีตายหรือถูกตีตาบอดทั้ง 2 ข้าง ก็ถือว่าให้แพ้เช่นกัน
ขณะที่ไก่กำลังชน แล้วหยุดนิ่งอยู่เฉย ๆ กรรมการจะจับประกบทันทีไม่ต้องรอเวลา ขณะที่ไก่กำลังชนกันถ้ายังไม่หมดอัน เจ้าของทั้งสองฝ่ายไม่มีสิทธิ์จับไก่ ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจับไก่ก่อน หรือจับผิดตัว กรรมการจะตัดสินให้แพ้ทันที
เมื่อหมดยกก็หยุดพักยก สามารถให้น้ำ ทำแผลให้ไก่กินข้าว กินยาโด๊ปได้ อาจะใช้เตา กระเบื้องประคบร้อนตัวไก่ (ขึ้นอยู่กับกติกาของสนามหรือข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย) ให้ใช้อุปกรณ์ในตัวไก่เท่านั้นเป็นอุปกรณ์เสริม เช่น ไก่ปากหักหรือหลุด เดือยหลุด นิ้วงอ ให้ใช้อุปกรณ์ในตัวไก่เท่านั้น ห้ามใช้วัสดุหรือโลหะหรือไม้แทน ปากหักปากหลุด ใช้พลาสเตอร์พันปากได้ หรือใช้ปากใหม่แทนได้แต่ห้ามเสี้ยมปลายปากให้มีความแหลมคม เดือยหลุด ให้ใช้เดือยอันเดิมเท่านั้น นิ้วหักงอ ให้ใช้ขนไก่ตาม (ใช้พลาสเตอร์พันในสนามเท่านั้น) ห้ามทาการบูร พิมเสน ยาหรือน้ำมันหอมระเหย รวมทั้งฉีดยาทุกชนิดในตัวไก่โดยเด็ดขาดหากจับได้จะให้อีกฝ่ายกินเดิมพันทันที
สำหรับการแพ้ชนะ มีทั้งหากอันต่อมาไก่ไม่ยอมเข้าชน นายสนามจะกำหนดเวลา เมื่อครบกำหนดตัวใดตัวหนึ่งไม่เข้าชนถือว่าแพ้ ส่วนลักษณะการแพ้ของไก่ (แพ้วิ่งหนี้, แพ้ไม่วิ่งหนี, แพ้ร้อง, แพ้ไม่ร้อง) กรรมการจะจับมาประกบ 3 ครั้ง ถ้าไม่สู้กันก็ให้ชนกันต่อไป ถ้าไม่สู้ 3 ครั้งถือว่าแพ้
ไก่หนีและร้องกรรมการจะจับมาประกบกันใหม่จำนวน 3 ครั้ง ถ้ายังหนีอีกถือว่าแพ้
ไก่ที่ไม่มีสภาพต่อสู้ คือยันไม่ได้หรือนอนฟุบกรรมการจะจับยกตั้งขึ้น 3 ครั้ง ถ้าไก่ยังนอนอยู่ก็ถือว่าแพ้
ไก่ตาบอดสองข้างไม่ถือว่าแพ้
ไก่ถูกตีหักหรือวิ่งรอบ ๆ สังเวียน กรรมการจะไม่จับแพ้ทันทีจนเห็นว่าแพ้จริง กรรมการจะจับมาประกบ 3 ครั้ง แล้วจึงตัดสิน
ไก่ชนยังไม่ครบยก เจ้าของไก่ห้ามชวนกันเลิกเด็ดขาด และถ้านายสนามจับได้ว่าไก่ที่ชนนั้นเป็นไก่คู่หรือรู้กันมาชน กรรมการจะจับยกเลิกแล้วยึดเงินเดิมพันทั้งสองฝ่าย
นอกเหนือจากกติกาทั้งหมดนี้ก็อยู่ในดุลยพินิจของนายสนามเป็นผู้ตัดสินเด็ดขาด โดยเจ้าของไก่หรือผู้เล่นไม่มีสิทธิ์คัดค้านใด ๆ ในการตัดสินของกรรมการทั้งสิ้น